ทำไม ? ” มูลไส้เดือน ” จึงมีประโยชน์แตกต่างจากปุ๋ยชนิดอื่น
🍀🍀🍀🍀
🐛🐛อาหารที่ผ่านระบบย่อยในลำไส้ของไส้เดือนแล้วขับถ่ายออกมาจะมีโมเลกุลของสารอาหารที่เล็กมาก และมีความเย็น 🍃 พืชสามารถดูดไปใช้ได้ทันที
🐞🐞 มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลากหลายชนิดมากกว่าที่พบในปุ๋ยหมักธรรมดา ซึ่งจุลินทรีย์ (microbes) เป็นสิ่งที่มีชีวิตที่จะค่อยๆย่อยสลายอินทรีย์วัตถุและปลดปล่อยธาตุอาหารแก่พืชอย่างช้าๆตามความต้องการของพืช 🍍ซึ่งจะดีกว่าการให้แบบดูดซึมครั้งละมากๆของปุ๋ยเคมี
🌾🌾 มีส่วนประกอบของกรดฮิวมิคซึ่งเป็นตัวกักเก็บธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืชหลายชนิด 🌿 เช่น ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซียม (K) แคลเซียม (Ca) เหล็ก (Fe) และทองแดง (Cu)
** ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในโมเลกุลของกรดฮิวมิค อยู่ในรูปพร้อมใช้ และจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อพืชต้องการ🌽
🌲 มีฮอร์โมนสำคัญ ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของพืช คือ ออกซิน (auxins) ไคเนติน (kinetins) จิบเบอเรลลิน (gibberellin) และไซโตไคนิน (cytokinin)
ซึ่งเป็นตัวควบคุมการเจริญเติบโตของพืช และสารอินทรีย์เหล่านี้มีความสำคัญในการทำหน้าที่ต่างๆ เช่นกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์พืช ควบคุมความยาวของเซลล์ และแม้กระทั่งทำหน้าที่เป็นสารต้านการแก่ตัวของพืชไม่ให้เน่าเปื่อยเร็ว 🚜
🌻🌻 นอกจากนั้นยังค้นพบว่ามีเอนไซม์ไคติเนส (kitinase) ซึ่งสามารถละลายไคตินสารชีวะเคมีชนิดหนึ่งที่ประกอบกันเป็นเปลือกชั้นนอกของแมลง ด้วยเหตุนี้มูลไส้เดือนจึงมีฤทธิ์ในการขับแมลงด้วย
** ช่วยปรับสภาพดินให้ดีขึ้นโดยทำให้มีการรวมตัวของดินอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ เป็นสารอินทรีย์ 100% ปลอดสารพิษ 👩🌾
🐝🐝 ยับยั้งการเจริญของเชื้อราที่เป็นสาเหตุ ของโรคพืช
✅ กรณีผสมดินที่เป็นดินทรายจะช่วยเพิ่มเนื้อดิน ช่วยให้ดินเก็บรักษาความชื้น และธาตุอาหารในดิน
✅ ปกป้องดินไม่ให้มีสภาพโครงสร้างแน่นทึบและช่วยเติมอินทรียวัตถุในเนื้อดิน ช่วยให้ดินร่วนซุย รากพืชสามารถแผ่ขยายได้กว้าง